วันพุธที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2551

จำได้แม่นกว่า

"ผมขอแจ้งความคับคุณตำรวจ" ผู้ชายคนหนึ่งวิ่งหน้าตาตื่นมาแจ้งความ

ตำรวจ: คุณจะแจ้งความเรื่องไรคับ
คนมาแจ้งความ: ภรรยาของผมหายออกจากบ้านไป2อาทิตย์ละคับ
ตำรวจจึงถามรายละเอียดเพื่อเป็นข้อมูลการตามหา
"ภรรยาคุณสูงเท่าไหร่"
"ก็เรียกได้ว่า เป็นคนค่อนข้างสูงครับ"
"แล้วเขาหนักเท่าไหรคับ"
"ก็หนักพอๆกับผู่หญิงทั่วไปอ่ะคับ"
"แล้วภรรยาคุณผมสีอะไร"
"ไม่แน่ใจนะคับ เพราะเธอชอบย้อมผมบ่อย ผมเลยจำไม่ค่อยได้"
"แล้วเธอมีอะไรติดตัวไปมั้งคับ"
"ดูเหมือนเธอจะใส่เสื้อสีฟ้า และเธอจูงสุนัขไปด้วย"
"สุขัขพันธุ์อะไรคับ"
"เยอรมันเชพเฟิด สีดำ หนัก 60ปอนด์ สูง 25นิ้ว ปลอกคอสีแดง หูข้างขาวตึง ชื่อแจ๊กคับ"
"!!!!!"


จำแม่นกว่าเมียอีก - -*

อาถรรพณ์เตียงหมายเลข11


เรื่องมันมีอยู่ว่า ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง เกิดเรื่องประหราดขึ้นที่ห้อง ICU คือ จะมีคนไข้ตายบนเตียงหมายเลข11ซำๆกันหลายราย แล้วที่น่าแปลกก็คือ ทุกศพจะตายในเวลา 11.00น.ของวันอาทิตย์ ซึ่งศพล่าสุดนี้เปนศพที่7แล้ว ซึ่งหมอน้อยหมอใหญ่ก้ไม่อาจให้คำอธิบายได้ ทั้งที่ก่อนน่านั้นคนไข้ก็ยังมีอาการปกติไม่ร้ายแรงถึงขั้นเสียชีวิตฉับพลัน บางคนที่ทราบเรื่องก็ร่ำลือถึงความเฮี้ยนที่หลายๆคนได้ยินมา บ้างก็ว่าตัวตายตัวแทน และผ้อำนวยการโรงพยาบาลถึงขั้นนิมนต์พระมาสวดขับไล่วิญญาณตามความเชื่อของชาวบ้านแต่เรื่องประหลาดก็ยังเกิดขึ้น บรรดาหมอและเจ้าหน้าที่จึงตัดสินใจไปที่ห้องICUเพื่อตรวจหาสาเหตูในวันอาทิตย์หน้า เช้าวันอาทิตย์ที่รอคอยก็มาถึง 2-3นาที ก่อนเวลา11.00น.ทั้งหมดและพยาบาลต่างรอคอยอย่างลุ้นระทึก แอบมองอยู่ข้างนอกว่าจะมีอะไรเกิดขึ้น ต่างคนต่างกำหลวงพ่อประจำตัว ปากก็สวดมนต์อยู่ตลอดเวลา ด้วยความหวาดกลัวและลุ้นว่าจะเห็นวิญญาณเฮี้ยนหรือไม่ จนเข็มนาฬิกาเดินมาที่ 11.00 น . บรรยากาศก็เย็นเฉียบขึ้นโดยฉับพลัน ไร้เสียงรบกวนใดๆ แม้แต่เสียงลมก็แทบจะไม่ได้ยิน

ทันใดนั้นเรื่องที่ไม่คาดฝันก้เกิดขึ้น เมื่อมีพนักงานทำความสะอาดคนใหม่ เพิ่งมาทำงานได้เดือนกว่าๆและมาทำฉะเพราะวันอาทิตย์วันเดียว ก็เดินเข้าไปในห้องผู้ป่วย สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้ทุกคนช๊อก เธอถอดปลั๊กเครื่องช่วยหายใจของคนไข้เตียง 11 ออก แล้วเสียบปลั๊กเครื่องขัดพื้นแทน และทำความสะอาดต่อไปด้วยความสบายใจ

-*-

ผีไข่เจียว

"ไอ้ดำ"เปนเพื่อนสนิทที่ทุกคนรัก ตอนเรียนมัธยมทุกครั้งที่พักเที่ยง จะรวมตัวกินข้าวและทุกเที่ยงสิ่งที่ไอ้ดำสั่งก็คือ ไข่เจียว "ป้าไข่เจียวกล่องหนึ่ง" และมันก้จะเอาไข่เจียวมานั่งกินกับเพื่อนทุกวัน "มึงไม่เบื่อรึไงว่ะ กูไม่เห็นจะชอบเลย" ไอ้แกะเพื่อนสนิทมากๆของมันถาม "ไม่เบื่อ ป้าเขาทำอร่อย ถึงตายไปก็จะมากิน" มันตอบ แล้ววันหนึ่ง บรรยากาศในห้องต้องเงียบสงัดราวกับป่าช้า เมื่อไอ้ดำมีอันจากไปอย่างไม่มีวันกลับ เพราะถูกรถชนตายในเช้าวันนั้นเอง เที่ยงวันนั้นเพื่อนๆทั้งกลุ่มก็เดินลงมากินข้าวเที่ยงอย่างเงียบๆขาดแต่ไอ้ดำคนเดียวที่มาไม่ได้อีกแล้ว "ป้า ไข่เจียวกล่องหนึ่ง" ทุกคนหันขวับไปทางต้นเสียง ไอ้แกะเปนคนสั่งคับ
ทุกคนมองอย่างสงสัย มันเกียดไข่เจียวจะตายแต่ทุกคนก็ไม่คิดอะไร มันคงคิดถึงเพื่อนรักของมัน ป้าเข้าใจ ทำให้เป็นพิเศษ "เฮ้ย ไอ้ดำมันไปดีแล้ว มันคงดีใจที่เหนเองยอมกินไข่เจียวแทนมัน" เพื่อนๆปลอบไอ้แกะ
ไอ้แกะยังนิ่ง "ไม่กินสักคำเดี๋ยวไอ้ดำมากินนะเว้ย" เพื่อนคนหนึ่งแซง
ไอ้แกะค่อยๆเปิดกล่องออกอย่างช้าๆถอนหายใจ เพื่อนๆก็มองลุ้นให้มันกินข้าวซะที ทันใดนั้น ทุกคนต้องอ้าปากค้าง อย่างตะลึ่ง เมื่อไข่เจียวไม่มี ไข่เจียวในกล่องหายครับทุกคนขนลุกซู่ โดยฉะเพราะไอ้แกะ ที่มันเห็นกับตาว่าป้าคนขายไข่เจียวตักใส่กล่องให้เห็นๆ อิ่มกันหมดครับทีนี้.. "เฮ้ย กลับห้องกันเถอะ"ผู้ได้สติคนแรกทัก ไอ้แกะค่อยๆลุกขึ้นถือกล่องข้าวที่เปิดค้างด้วยมือสั่นเทา ตาแดงๆ เดินกลับไปหาป้า"ป้า คืนข้าวนะ ไข่เจียวหาย ไอ้ดำมันกินไปแล้ว" ไอ้แกะบอกป้าด้วยเสียงที่เหมือนจะร้องไห้ ป้ามองน่าอย่างงงๆแล้วก็ยกตะหลิวเคาะหัวไปทีหนึ่ง "ไอ้บ้า ไข่เจียวหายซะที่ไหนกัน เอ็งเปิดกล่องผิดด้านโว้ย ไอ้เซ่อ" เพื่อนๆหันขวับมามองพร้อมมะเหงกอีกนับสิบ มันช่างทำไปได้

วันเสาร์ที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2551

ก่อนแต่งงาน


มีสองสามีภรรยาคู่หนึ่งที่พึ่งผ่านผ่านการแต่งงานมาหมาดๆได้มาฮันนีมูนเพื่อดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์ที่เกาะช้าง ระหว่างที่ทั้งคู่ชวนกันออกมาทานอาหารค่ำใต้แสงเทียน ผูเป็นสามีได้เอ่ยปากถามภรรยาว่า
สามี: ที่รักจ๊ะ...เอว่าอาหารมื้อนี้อร่อยไหมจ๊ะ
ภรรยา: อร่อยมากค่ะ รู้สึกมันหวานมากกว่าปกติ
สามี: ที่รักจ๊ะ เราก้แต่งงานกันมาได้กว่า3วันแล้ว ระหว่างสามี ภรรยา ย่อมไม่มีเรื่องอะไรที่จะต้องปิดบังกันใช่ไหมจ๊ะ
ภรรยา: ใช่จ๊ะ
สามี: งั้นผมขอถามคุณตรงๆนะ
ภรรยา: อะไรหรือค่ะ
สามี: ก่อนแต่งงานกัน คุณเคยมีผู้ชายมาแล้วกี่คน
ภรรยา: ............

ฝ่ายสามีมองน่าภรรยาที่นั่งนิ่งเลยคิดว่า คำถามของเขาช่างทำร้ายจิตใจของภรรยาผู้เป็นที่รักของเขายิ่งนัก

สามี: เออ...ไม่ต่องตอบก็ได้จ๊ะที่รัก
ภรรยา: เปล่าค่ะที่รัก ฉันกำลังนั่งนับอยู่


เหอเหอ
เปนไงละจ๋อยไปเลย = ="

สงสารลา

คุณครูสาวสวยกำลังอธิบายให้เด็กนักเรียนชั้นป.3 ฟังเรื่องการจำแนกประเภทของสัตว์ต่างๆว่า

ครู: สัตว์ที่มนุษย์เรานำมาเพื่อใช้แรงงานได้แก่ ช้าง ม้า วัว ควาย ล่อ ลา
ทันใดนั้นเอง เด็กชายคนหนึ่งก็ยกมือขึ้น
ครู: มีอะไรจะถามหรือจ๊ะ
นักเรียน: คือผมอยากให้คุณครูเอาล่อมาไว้เปนตัวสุดท้ายได้ไหมคับ
ครู: อ้าว...ทำไมละจ๊ะ
นักเรียน: ผมสงสารลาที่ถูกช้าง ม้า วัว ควาย รุมล่อมันอยู่ตัวเดียวคับ
ครู: เวรกรรม!!!

คืนที่ฝนตก

ชายหนุ่มกับหยิงสาวอยู่ด้วยกันทามกลางสายฝน เนื้อตัวของทั้งคู่เปียกลู่ ยอดอกตั้งชูชัน
ริมฝีปากของเธอเริ่มสั่นระริก มือขวาจับไหล่ของเขาไว้แน่น ชายหนุ่มกระซิบเบาๆ"เจ็บไหม"
ร่างของทั้งสองขยับขึ้นลงเป็นจังหวะพร้อมกัน ทั้งคู่นั่งโยกขึ้นๆลงๆถี่บ้าง เว้นช่วงบ้าง
ในที่สุดหญิงสาวก้ทนไม่ไหว "พี่ๆไปทางอื่นเหอะ หลุมเยอะจัง" พี่ก็ว่างั้นแหละ
ว่าแล้วก้เลี้ยวมอเตอร์ไซค์กลับทันที


>_*

ป้าตายเพราะใคร

ในคืนหนึ่งเขาต้องออกไปซื้อของที่หน้าปากซอย ตอนนั้นประมานตีสามกว่าๆเห็นจะได้ขณะที่เขากำลังขับรถไปเรื่อยๆ เขาเห็นคุณป้าคนหนึ่งกำลังเดินอยู่ข้างถนน คุณป้าคนนั้นเหนรถของเขาจึงโบกมือเรียกให้เขาจอด
และขอติดรถเขาไปเพื่อจะกลับบ้านด้วย เขาจึงยอมให้คุณป้าขึ้นรถและขับไปส่ง ขณะที่เขาขับรถไปเรื่อยเขาได้แลไปข้างหลังแต่เชื่อไหมว่า ไม่มีคุณป้าคนนั้นอยู่บนรถเลย  เขาจึงรีบขับรถกลับบ้านอย่างรวดเร็วเพราะคิดว่าคงโดนดีเข้าแล้ว    เช้าวันรุ่งขึ้น ขณะที่เข้าขับรถออกไปทำงาน เขาสังเกตเหนคนกำลังมุงดูอะไรกันสักอย่าง
คุณพระช่วย!!!คุณเชื่อไหมสิ่งที่เขาเห็นคือคุณป้าที่นั่งรถมากับเขาแล้วหายไปเมื่อคืนนี้ เขาอุทานกับตัวเอง"กูว่าแล้วต้องโดนดีเข้าแน่ๆเลย" ด้วยความส่งสัยเขาจึงเดินเข้าไปถามคนที่มุงดูว่า"ป้าคนนี้แกเปนอะไรตายคับ"
และคำตอบยังคงดังชัดเต็มสองรูหูของเขาก็คือ"แกตกรถตาย" โอ้แม่เจ้า!!!!! คุณป้าคนนี้แกตกรถของเขาตายเมื่อคืน


ข้อความกวนๆชวนอมยิ้ม

:เพียงแค่เธอส่งสายตามองมา  ฉันก็ขนลุกซู่ซ่า....เพราะว่าปวดอึ   - -*
:คนอะไรน่ารักเป็นบ้า  สงสัยเพิ่งหลุดมาจากศรีธัณญาแน่ๆเลย
:อย่าแกล้งทำเปนขี้้เหล่นักสิ  ตั้งแต่เกิดมา..เธอแกล้งมาอย่างนี้ตลอดเลยนะ
:อยากบอกเธอว่ารักมากๆ อยากจะมาอยู่ใกล้ อยากจะบอกว่าห่วงใย  แต่ทำไม่ได้ เพราะฉันโกหกไคไม่เปน
:รู้ไหมว่ามีคนคิดถึง หรือว่าควันธูปยังไปไม่ถึง...เลยไม่รู้ตัว
:เจ็บมากไหม..คนดี  ขอโทดที ความหล่อของพี่ไม่ปราณีไค
:มีใจไว้ให้เธอ มีเธอไว้ในใจ แต่ช่วยขยับที่หน่อยได้ไหม เพราะฉันยังต้องมีไคอีกหลายคน 
:มีสิ่งหนึ่งอย่างให้เธอรู้   ....หุ่นเธออ่ะ   คล้ายหมูเข้าไปทุกวัน
:ทำไมออกมาเดินเพ่นพ่าน      ระวังนะ!!!!!  เดี๋ยวเทศบาลจะมาจับตัว
:ลุยมาเจ็ดป่าช้าไม่เคยกลัว      เจอเธอเข้ากับตัว  แย๊กกกกก   กลัวแทบตาย!!!
:กำลังใจฉันเริ่มหมด = =  ขนาดจะตดยังไม่มีแรง
:คนดี^^~คืนนี้อย่านอนดึกนะ   เดี๋๋ยวพรุ่งนี้ไม่มีแรงขวิด!!!!!
:บางคนบอกว่าเธอไม่สวย  รู้ไหม พวกนี้ไม่มีสมอง!!!!!แต่สายตาดีมาก *O*
:อากาศร้อน  รักษาสุขภาพด้วย   สัญญา ว่าถ้าว่างจะรีบพาไปฉีดยา = ="
:หมอบอกว่าผมมีโรคประจำตัว  ไม่ปวดหัวก็เป็นไข้และยังเปนโรคประจำใจ  ไม่ห่วงใยก็คิดถึง
:ถึงผมจะเป็นผู้ชายที่ทะลึ่ง แต่ก็น่าคิดถึงที่สุดในโลก
:บริการเป็นแฟนฟรี...หากท่านสนใจสมัคร...กรุณาส่งข้อความกลับมาใน5นาที



พอแค่นี้ก่อน พักกินข้าวแปบๆ

วันศุกร์ที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2551

ขอบันได

ณ สถานีดับเพลิงแห่งหนึ่งมีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น

เจ้าหน้าที่ : สวัสดีครับสถานีดับเพลิงคับ

หญิงสาว : มีผู้ชายคนหนึ่งมายืนดูหนูหลายวันแล้วค่ะ เขาพยายามปีนขึ้นหน้าต่างห้องหนู

เจ้าหน้าที่ : นี่! คุณโทรผิดแล้วครับ นี่มันสถานีดับเพลิง ไม่ใช่สถานีตำรวจ

หญิงสาว : ไม่ผิดหรอกค่ะ คือ หนูอยากได้บันไดยาวๆน่ะค่ะ เพราะห้องขอหนูมันสูง

เจ้าหน้าที่ : !!!!!!!!!!!!!!เวรกรรม


เอิ๊กๆๆๆ - -*

ตายยังเศร้า

ชายหนุ่มคนที่ 1
เป็นหนุ่มที่มีความรับผิดชอบรักครอบครัว รักภรรยาและลูกสุดชีวิต ไม่เคยผิดลูกผิดเมียใคร ปฏิบัติตนด้วยความดี จนกระทั่งถึงแก่กรรม ชายคนนี้ได้ไปที่นรก แต่ด้วยความดีที่เขากระทำ ยมบาลจึงได้ให้ BENZ เพื่อให้เขาขับขี่ในนรกนั้น

ชายหนุ่มคนที่ 2
รักครอบครัวเหมือนกัน แต่มีแวบโน่นแวบนี่ยุ่งกับภรรยาชาวบ้าน พอตกนรกไป ยมบาลจึงให้ TOYOTAไปขับ


ชายหนุ่มคนที่ 3
ไม่มีความดีเลยในชีวิต ชอบยุ่งกับลูกเมียชาวบ้าน ไม่มีความรับผิดชอบอะไรสักอย่าง ไม่รักครอบครัวเลย สรุป คือ ไม่มีความดีอะไรเลย เมื่อตกนรกไป เขาจึงได้แค่ มอเตอร์ไซค์


แต่แล้วมาวันหนึ่ง ทั้งสามได้มาเจอกันอีกครั้งที่ทางแยก ไฟแดงที่หนึ่ง แต่เนื่องจากชายหนุ่มคนที่ 1 นั้น
น่าตาดูหมองคล้ดูเหมือนคนอมทุกข์ทั้งๆที่ขับ BENZ ก็ตาม
ชายหนุ่มคนที่ 2 และ ชายหนุ่มคนที่ 3 จึงได้ถามไปว่า

"ทำไมถึงเป็นเช่นนี้"


ชายหนุ่มคนที่ 1 จึงถอนหายใจดังเฮือก พร้อมกลับตอบว่า
" ผมเพิ่งจะเห็นภรรยาของผม ขับรถจักยาน ผ่านไปเมื่อครู่นี้เอง"

==" น่าเศร้าไหมคับพี่น้อง

ทางแก้ปัญหา

ภรรยา : เธอพกรูปฉันไว้ในกระเป๋าเสมอ ทำไมหรอ
สามี : อ๋อ ก็มันมีปัญหาอะไร ไม่ว่าจะหนักหนาแค่ไหน ฉันก็จะดูรูปเธอ แล้วปัญหาก็หายไปเลย
ภรรยา : เห็นไหม ว่าฉันเปนสิ่งมหัศจรรย์สำหรับเธอแค่ไหน
สามี : ใช่ ฉันมองภาพเธอแลวก็พูดกับตัวเองว่า "ปัญหาอะไรจะมาหนักหนามากกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว"

เรื่องจริงที่ขมขื่น

ตอนเปนแฟนกัน อะไรๆมันก็ดีไปหมด มันดีอย่างนี้

ชายหนุ่ม: บ้านคุณอยู่ไกล ซอยเปลี่ยว อันตราย ให้ผมไปส่งดีกว่า
หญิงสาว: ซอยมันแคบกลับรถรำบากนะค่ะ
ชายหนุ่ม: ไม่เปนไรครับ ผมถอยหลังผ่านตลอดออกได้

เมื่อแต่งงานกันผ่านไป5ปี....อะไรบางอย่างนี้ก็เกิดขึ้น
ภรรยา: พี่ๆกลับเถอะดึกมากแล้ว
สามี: จะคุยกับเพื่อน คุณก็กลับไปก่อนสิ
ภรรยา: ซอยมันเปลี่ยวอันตรายนะพี่
สามี: กลับประจำ ไม่มีอะไรหรอก
ภรรยา: ฉันกลัวถูกข่มขื่น
สามี: ไม่หรอกน่า...เดี๋ยวนี้โจรมันฉลาด..มันรู้จักเลือก

*0*

26 วิธีอารมณ์ดีตลอดกาล

ศิลปะ หางานอดิเรกเกี่ยวกับด้านศิลปะมาทำ เช่น การถ่ายภาพ วาดภาพ ร้องเพลง เต้นรำ เป็นต้น เพื่อให้ตัวท่านเองมีาจิตใจอ่อนโยน มีหัวใจศิลปิน อารมณ์ท่านก็จะดีตามไปด้วย การอาบน้ำ
การอาบน้ำด้วยน้ำเย็นจะช่วยให้ท่านสดชื่น มีชีวิตชีวา เพราะฉะนั้นในแต่ละวันควรให้ความสำคัญกับการอาบน้ำ เพราะจะเป็นช่วงเวลาส่วนตัวที่ทุกคนได้ผ่อนคลายที่สุดของแต่ละวันหลังจากทำงานมาเครียดๆ
มิตรสหาย ควรจะหาเพื่อนที่อารมณ์ดีมาเป็นคู่สนทนา เมื่อคุยกับเพื่อนคนนี้จะต้องมีเรื่องสนุกคุยกันจะเป็นการช่วยให้ท่านได้มีโอกาสผ่อนคลาย โดยอาจจะเป็นการโทรศัพท์ไปคุยกันก็ได้เพื่อให้มีความสนุก
เปิดเผย ท่านจะต้องไม่เป็นคนที่เก็บกดปัญหาต่างๆ จะต้องหาคนพูดคุย คนปรึกษา ถ้าปัญหาที่ท่านเผชิญอยู่เก็บไว้คนเดียวอารมณ์ของท่านจะหงุดหงิดอยู่ตลอดเวลา
รู้จักพอ ท่านจะต้องฝึกเป็นผู้มีความเพียงพอในเรื่องต่างๆ แล้วไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ใครจะได้จะเสียอะไร ตัวท่านจะต้องรู้จักตัวเองว่า ความพอดีของตัวท่านเองอยู่ที่ไหนแล้วอารมณ์ของท่านจะสดใส อย่าวิ่งตามกระแสสังคม
อาหาร ในแต่ละมื้ออาหารท่านควรจะรับประทานให้พออิ่ม อย่าให้มากหรือน้อยจนเกินไป และที่สำคัญ ควรรับประทานอาหารที่มีผักมากๆ เนื่องจากการย่อยจะง่าย ท้องไส้ไม่ปั่นป่วน ควรจะทานเนื้อให้น้อยๆ เน้นผลไม้ให้มาก ชีวิตระหว่างมื้ออาหารท่านก็จะสดใสไม่หงุดหงิด
การให้ ท่านจะต้องรู้จักที่จะใช้ประโยชน์จากการให้ เช่นให้รอยยิ้ม ให้คำชม ให้การช่วยเหลือ ให้อาหาร มีความปรารถนาดีกับคนรอบข้าง แล้วท่านจะได้รู้ว่าวันที่ท่านมีโอกาสให้วันนั้นจะเป็นวันที่ท่านมีความสุขอย่างแท้จริง
บำบัดรักษา เมื่อเจ็บป่วยหรือรู้สึกไม่สบายใจ เช่นเป็นไข้ เป็นหวัด ก็ให้รีบรักษาเนื่องจากอาการเจ็บป่วยทางกายทำให้จิตใจไม่สดชื่นไปด้วย
ทำให้คนอื่นเกิดความประทับใจ เมื่อแรกพบท่านด้วยการแสดงความเป็นคนอารมณ์ดีแล้วคนอื่นจะจดจำท่านได้ดี มีคนคิดถึง
เรื่องขำขัน พยายามหาเรื่องที่ขำขันมาเล่าให้กันฟัง เพื่อสร้างความสดชื่นให้กับวงสนทนา แต่ต้องหลีกเลี่ยงการนำเรื่องความผิดพลาดของคนอื่นมาเล่าตลกกัน เพราะถ้าท่านโดนด้วยตัวเองคงจะอารมณ์ไม่ดี
ท่านต้องฝึกตัวเองเป็นฆาตกร เป็นนักฆ่า เพื่อฆ่ากิเลสตัณหาในตัวของท่าน เมื่อฆ่าความไม่ดีไมงามทั้งหลายออกจากจิตใจ ชีวิตก็จะเป็นสุขสนุกสนาน
หัวเราะ การหาโอกาสหัวเราะให้ได้ในแต่ละวันจะเป็นกำไรชีวิต แถมอารมณ์ก็ดีด้วย ถ้าอยู่คนเดียวก็ลองนึกถึงเรื่องที่ท่านเคยขำ แล้วท่านจะหัวเราะ การหัวเราะแต่ละครั้งจะช่วยยืดอายุท่านได้ 12 นาที
ตื่นเช้า การตื่นเช้าต้อนรับวันใหม่จนเป็นนิสัยจะทำให้ท่านรู้สึกสบายใจเนื่องจากไม่ต้องเร่งรีบจนเกินไปในการเดินทางไปทำงาน ตลอดวันทำงานรับรองอารมณ์ท่านจะดีอย่างแน่นอน
ทางสายกลาง ท่านจะต้องพยายามทำตัวเองให้มีความพอดี มีความสมดุล ไม่วิ่งตามโลกตามกระแสสังคมมากเกินไป เมื่อสังคมภายนอกเปลี่ยนแปลงท่านก็จะอยู่ได้อย่างไม่เจ็บปวด
ผู้ชมหน้าเวที กำลังจ้องมองท่านอยู่ ให้สมมุติว่าตัวท่านเป็นนักแสดงที่ยิ่งใหญ่ เป็นดาราระดับซูปเปอร์สตาร์ ทุกอย่างที่ท่านกำลังทำหรือจะทำคือการแสดง แล้วท่านจะมีอารมณ์ดีตลอดกาล
มองโลกในแง่บวก ความไม่ดี ความคิดเชิงลบเป็นตัวส่งเสริมความหงุดหงิดของอารมณ์ จงเลือกที่จะคิดในสิ่งที่สร้างสรรค์ มองในมุมที่สบายใจ ใช้ความเป็นธรรมในการตัดสินปัญหา
จดข้อความที่น่าสนใจ มีข้อคิด กลอน คำกล่าว คติเตือนใจ หลายๆอันที่น่าสนใจและเมื่อได้เห็นได้อ่านแล้วสบายใจ ก็ให้จดไว้ใกล้โต๊ะทำงาน เมื่อท่านมองดูแล้วก็จะสบายใจ เช่น " คนอ่านน่ารัก "
อ่าน หาหนังสือที่ช่วยให้อารมณ์ขันมาอ่าน เช่นการ์ตูน ขำขัน นิยายตลก และอาจรวมไปถึงไปถึงการดู วีดีโอตลก ฟังเทปตลก เป็นต้น เหล่านี้สามารถสร้างอารมณ์ที่สดชื่นได้ตลอด
นอน อยากมีอารมณ์ดีจะต้องนอนให้เพียงพอถ้าท่านนอนน้อย วันต่อมาไปทำงานท่านจะรู้สึกว่าเฉื่อยๆ ไม่กระฉับกระเฉง ง่วงนอน คนเราจะต้องนอนวันละประมาณ 7-8 ชั่วโมง ระวังอย่านอนมากเกิน
คิดถึงคนที่เรารักเรื่องที่เราประทับใจ คิดถึงอนาคตของครอบครัวที่มีความสุข พ่อ แม่ ลูก การคิดถึงเรื่องที่มีความสุขจะทำให้ท่านอารมณ์ดีเพราะ " ความคิดเป็นตัวกำหนดชีวิตของท่าน "
เข้าใจอะไรง่าย ฝึกเรียนรู้เรื่องราวต่างๆ แล้วทำความเข้าใจ บางคนเป็นคนมีปัญหาชอบตั้งคำถามจนคนอื่นรำคาญใจ ตัวเองก็พลอยหงุดหงิดไปด้วย
วิตามิน ชนิดต่างๆ มีความสำคัญต่อนร่างกายเช่น วิตามิน อี มีผลต่อผิวหนัง วิตามินซีมีส่วนช่วยให้ฟันแข็งแรง ดังนั้น ถ้าร่างกายได้รับวิตามินชนิดต่างๆ ตามที่ร่างกายต้องการก็จะทำให้สุขภาพดี
ความปรารถนา ท่านจะต้องกำหนดให้เป็นพันธกิจของตัวเองเลยว่า "ข้าพเจ้าจะเป็นคนที่อารมณ์ดีตลอดกาล ไม่ว่าปัญหาใดๆ จะเข้ามาในชีวิตก็ตาม"
งดเว้น การดื่มสุราหรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ เพราะเป็นบ่อเกิดแห่งปัญหาอื่นๆ อีกมากมาย เช่น อุบัติเหตุ รายได้ของครอบครัว ทะเลาะวิวาท แถมบั่นทอนสุขภาพ ควรอยู่ให้ห่างของมึนเมา
ร้องออกมาเสียงดังๆ เมื่อท่านทำอะไรบางอย่างสำเร็จ เช่นทำงานโครงการที่ใช้เวลานาน แข่งกีฬาชนะ ขายสินค้าได้ แต่ก็ควรระวังก่อนจะร้องออกมาดูคนรอบข้างด้วย
การมีใจจดจ่อ ต่อเรื่องที่ผ่านเข้ามาในชีวิตของท่านแต่ละอย่าง คิดอย่างรอบคอบเพื่อลดความผิดพลาด อันเป็นบ่อเกิดของอารมณ์ที่ไม่ดี
ท้ายสุดทุกท่านถ้าทำได้ตามข้อแนะนำเบื้องต้นแล้ว อารมณ์ท่านก็จะดีตลอดกาล เริ่มตั้งแต่วันนี้ ขอฝากคำกลอนเป็นข้อคิดให้กับท่านผู้อ่านทุกท่าน

" ถ้าครั้งหนึ่งในชีวิตเคยผิดพลาด
ต้องฉลาดเรียนรู้สู่ความหวัง
นำสิ่งนั้นมาเสริมเพิ่มพลัง
ทิ้งความหลังเพื่อชีวิตใหม่สดใสเทอญ "

ต้องยอมพี่ท่าน

ผมเริ่มต้นเขียนบล๊อกนี้เปนครั้งแรก โดยที่แรงจูงใจกะคืน ระบาย - -* เอาหล่ะเข้าเรื่องเลยละกัน
วันนี้ผมกะพี่ๆที่ทำงานนั่งคุยกันถึงพลังแห่งจักรวาล มีพี่คนหนึ่งเดินเข้าผมเลยถามพี่เค้าไปว่า
คิดยังไงกะพลังแห่งจักรวาล
พี่แกบอกว่า จักรวาลของเรามีอยู่หลายแกแลคซี่ ทุกๆแกแลคซี่จะมีดาวดวงหนึ่งที่มีสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่ อย่างเช่นแกแลคซี่ของเราก็จะมีโลกที่มีมนุษย์อาสัยอยู่ เมื่อมนุษย์เราตายไปถ้าทำกรรมดีมากๆก้จะไปอยู่ในอีกแกแลคซี่หนึ่งที่ชื่อว่า สวรรค์ หรือถ้าทำกรรมเลวไว้มากๆก้จะไปอยู่ที่แกแลคซี่ที่ชื่อว่า นรก ในตัวของคนเรามีมวลอยู่2อย่างคือ ร่างกาย และจิตวิณญาน สองสิ่งนี้จะมาด้วยกันและจะอยู่ด้วยกันเมื่อขาดสิ่งใดสิ่งหนึ่งไปก็จะไม่เรียกว่า มนุษย์ เปรียบเทียบง่ายๆก้คือ ร่างกายเปนฮาด์แว จิตวิณญาณเปงซอฟแว *0* สิ่งที่จะกำหนดซอฟแวได้กะตือฮาร์แว เพราะฉะนั้น ร่างกายคือสิ่งกำหนดความคิดต่างๆของตัวเรา ส่วนจิตวิณญาณที่ไม่มีร่างกายให้สิงสถิตหรือที่เราเรียกกันว่าผี ที่จิงแล้วมันคือโมเลกุลหรือสะสารที่ลองลอยอยู่ในอากาศไม่สามารถปรากฎให้เหนได้ แต่รู้ว่ามีอยู่จิง


คุณๆดูสิครับ ผมถามแกไปประโยคเดียว โดนกลับมาหลายเท่าตัว ผมหล่ะยอมพี่ท่านเลย